วิธีหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเอง

อัพเดทล่าสุดวันที่ 08 ตุลาคม 2567
วิธีหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเอง

เมื่อคนในครอบครัวเจ็บป่วยและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด การหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ที่มีคุณภาพและไว้วางใจได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานที่มีเวลาจำกัด บทความนี้จะแนะนำวิธีหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเอง รวมถึงข้อควรรู้เกี่ยวกับบริการเฝ้าไข้และการรับจ้างเฝ้าไข้

ทำไมต้องหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเอง?

ในปัจจุบัน มีหลายบริษัทที่ให้บริการจัดหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ แต่การหาด้วยตัวเองก็มีข้อดีหลายประการ:

  1. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าบริการให้บริษัทจัดหา

  2. มีอิสระในการเลือก: สามารถคัดกรองและเลือกผู้ดูแลที่เหมาะสมที่สุดได้ด้วยตัวเอง

  3. สร้างความสัมพันธ์โดยตรง: สามารถพูดคุยและตกลงรายละเอียดกับผู้ดูแลได้โดยตรง

ขั้นตอนการหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเอง

1. เตรียมความพร้อม

  • เปิดใช้งานบัญชี Facebook และ LINE

  • เตรียมข้อความสำหรับประกาศหาผู้ดูแล

2. เขียนประกาศที่มีประสิทธิภาพ

ประกาศที่ดีควรระบุข้อมูลสำคัญดังนี้:

  • ลักษณะของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ - การระบุลักษณะของผู้ป่วยจะช่วยให้ผู้ดูแลรู้ถึงสถานะการณ์หรือความต้องการพิเศษในการดูแล ตัวอย่างเช่น คุณยาย เพศหญิง อายุ 81 ปี น้ำหนัก52 กก. สูง 154 ซม. อัมพฤกษ์ ช่วยพลิกตัวได้ พูดรู้เรื่อง อารมณ์ดี ชอบฟังเพลง ดูแลง่าย ไม่มีแผลกดทับ ไม่ได้เจาะคอ ไม่ต้องดูดเสมหะ

  • วัน และเวลาที่ต้องการให้ดูแล - สำหรับการดูแลเฉพาะวัน เช่นการเฝ้าไข้เพียง 2-3 วัน เราจะต้องระบุวันและเวลาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ดูแลได้ตรวจสอบคิวงานของตน และหากเป็นแบบรายเดือน เราก็ควรระบุเวลาที่ต้องการการดูแลด้วย ซึ่งอาจจะเป็นแบบ 24 ชั่วโมง คืออยู่กับตัวผู้ป่วยเลย หรือแบบไป-กลับ ตามชั่วโมงที่ต้องการ

  • หน้าที่หลักที่ต้องการให้ดูแล - ระบุหน้าที่หลักที่เราคาดหวังจากผู้ดูแล โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น การดูดเสมหะ การยกอุ้ม การจัดรายการยาจากคำสั่งหมอ

  • พิกัดสถานที่ - เราไม่จำเป็นต้องระบุสถานที่ที่ชัดเจน แต่เราควรจะระบุพิกัดที่ใกล้เคียง เช่นการระบุเขต หรืออำเภอ และจังหวัด

  • ราคาค่าดูแล - ระบุราคาค่าดูแล โดยอาจจะเป็นแบบรายวัน หรือรายเดือนตามที่ต้องการ ดูเรทค่าจ้างการดูแลที่เราได้รวบรวมไว้ในบทความนี้

  • ระบุช่องทางการติดต่อ - ระบุเบอร์โทรศัพท์หรือ LINE ไอดีเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถติดต่อคุณได้ โดยเฉพาะไลน์ไอดีที่จะเป็นการง่ายต่อการติดต่อ

  • กรณีที่เป็นการเฝ้าดูแล 24 ชั่วโมง หรือรายเดือน เราควรระบุด้วยว่าผู้ดูแลจะมีห้องพักอาศัยหรือไม่ และมีอาหารให้ผู้ดูแลด้วยหรือไม่

3. ประกาศหาผู้ดูแล หาคนรับจ้างเฝ้าไข้

ประกาศหาผู้ดูแลในกลุ่มต่างๆใน Facebook และ LINE โดยเราได้รวมรวบกลุ่มประกาศหาผู้ดูแลซึ่งจะมีดังนี้:

Facebook:

LINE:

4. คัดกรองผู้สมัคร

เมื่อมีผู้สนใจสมัครงานดูแล ควรพิจารณาดังนี้:

  • ตกลงหน้าที่และขอบเขตการดูแลให้ชัดเจน

  • แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อและเบอร์โทรฉุกเฉิน (เช่นเบอร์โทรญาติหรือครอบครัว)

  • ขอหลักฐานสำคัญเช่น เอกสารยืนยันว่าตัวผู้ดูแลได้ผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้อง เช่น กรณีผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver หรือ CG) จะมีใบประกาศนียบัตรที่แสดงว่าตนได้ผ่านการฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุมาแล้ว

  • ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และ reference จากนายจ้างคนก่อนหน้า โดยเราควรจะโทรหานายจ้างคนก่อนเพื่อยืนยันคุณภาพการดูแล

ตัวอย่างของการประกาศหาผู้ดูแล เฝ้าไข้ ดูแลผู้สูงอายุ

เรามาดูตัวอย่างการประกาศหาผู้ดูแลกัน

ตัวอย่างที่ดี: มีการระบุวันเวลา เงื่อนไขการดูแล ราคาค่าดูแล และช่องทางการติดต่อ

ตัวอย่างการประกาศหาผู้ดูแลเพื่อเฝ้าไข้ผู้ป่วยติดเตียง โดยระบุวันเวลาที่ชัดเจน ลักษณะของผู้ป่วย หน้าที่ของผู้ดูแล ค่าจ้างการดูแล และช่องทางการติดต่อ

ตัวอย่างที่ไม่ดี: ไม่ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ไม่มีใครสนใจ (สังเกตุจำนวน Like และ Comment แม้จะผ่านมาหลายวัน)

การประกาศหาผู้ดูแลโดยไม่ระบุข้อมูลสำคัญจะทำให้ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ดูแล ทำให้เราต้องเสียเวลากับการหาผู้ดูแลเป็นอย่างมาก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับบริการเฝ้าไข้

บริการเฝ้าไข้มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว:

  1. การเฝ้าไข้ระยะสั้น: สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลชั่วคราว เช่น หลังผ่าตัด

  2. การเฝ้าไข้ระยะยาว: สำหรับผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง

  3. การเฝ้าไข้แบบ 24 ชั่วโมง: ผู้ดูแลอยู่ประจำกับผู้ป่วยตลอดเวลา

  4. การเฝ้าไข้แบบไป-กลับ: ผู้ดูแลมาทำงานตามเวลาที่กำหนด

ราคาค่าบริการเฝ้าไข้จะแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของผู้ดูแล ระยะเวลา และความซับซ้อนของงาน โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 500-1,500 บาทต่อวัน สำหรับการดูแลแบบไป-กลับ และ 15,000-30,000 บาทต่อเดือน สำหรับการดูแลแบบ 24 ชั่วโมง

การรับจ้างเฝ้าไข้: สิ่งที่ควรรู้

หากคุณกำลังพิจารณาว่าจ้างผู้ที่รับจ้างเฝ้าไข้ ควรทราบว่าผู้ดูแลมักจะมีระดับความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน:

  1. ผู้ดูแลผู้ป่วย หรือผู้ช่วยเหลือคนไข้ (Nurse Assistant หรือ NA): ผ่านการอบรมพื้นฐานในการดูแลผู้ป่วย

  2. ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver หรือ CG): มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และเด็ก

  3. ผู้ช่วยพยาบาล (Practical Nurse หรือ PN): ผ่านการศึกษาด้านการพยาบาลเพื่อเป็นผู้ช่วยพยาบาล จะมีทักษะในการปฐมพยาบาลและการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ (ที่ไม่ใช่การสอดใส่เข้าร่างกายผู้ป่วย)

  4. พยาบาลวิชาชีพ (Registered Nurse หรือ RN): มีใบประกอบวิชาชีพพยาบาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการปฐมพยาบาลแบบปลอดเชื้อ หรือการใช้อุปกรณ์ที่สอดใส่เข้าไปในร่างกายผู้ป่วย

เลือกผู้ดูแลให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย โดยพิจารณาจากอาการและความซับซ้อนของการดูแลที่จำเป็น

อ่านบทความเกี่ยวกับวิธีเลือกผู้ดูแลตามหน้าที่และขอบเขตการดูแลได้ที่บทความนี้

สรุป

การหาผู้ดูแลเฝ้าไข้ด้วยตัวเองอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้ผู้ดูแลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก การเข้าใจกระบวนการหาผู้ดูแล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบริการเฝ้าไข้และการรับจ้างเฝ้าไข้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนทำงานที่มีเวลาจำกัดและต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น การใช้บริการแพลตฟอร์มจัดหาผู้ดูแลอย่าง Papai Platform อาจเป็นทางเลือกที่ดี เราช่วยคัดกรองผู้ดูแลที่มีคุณภาพและจับคู่ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ช่วยประหยัดเวลาและลดความกังวลในการหาผู้ดูแลที่ไว้วางใจได้

ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้ผู้ดูแลที่มีคุณภาพและไว้วางใจได้ เพื่อให้คนที่คุณรักได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง